วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รูปแบบทรงผมสมัยโบราณของจีน

สมัยสุ่ย  ถัง และยุค 5 ราชวงศ์ (ค.ศ.581-ค.ศ. 960)

          หลัง จากที่กษัตริย์สุ่ยเหวินได้ยกทัพไปปราบรัฐเฉิน อาณาจักรเป่ยโจว (ก่อนค.ศ.1066-ค.ศ. 256 อยู่ทางเหนือของจีน) จนล่มสลายสำเร็จ จึงได้ก่อตั้งราชวงศ์สุ่ยขึ้นมาในปี ค.ศ. 581 และสามารถรวมชาติจีนได้ในปี ค.ศ. 589



          เกษตรกรรม และงานหัตถกรรม ได้รับการฟื้นฟูอีกครั้งในยุคนี้ ถึงแม้ว่ายุคสมัยดังกล่าวทุกอย่างแลดูดีขึ้น ทำศึกสงครามทุกครั้งก็ได้รับชัยชนะทุกครั้ง แต่ทว่าประชาชนกลับยากจนข้นแค้น ในที่สุดประชาชนจึงได้ก่อการปฏิวัติในปลายสมัยสุ่ย

           และในปี ค.ศ. 618 หลี่เอวี้ยนจึงได้รวมประเทศอีกครั้งภาย ใต้ชื่อราชวงศ์ถัง ประวัติศาสตร์จีนได้กล่าวไว้ว่า  สมัยถังเป็นยุคสมัยที่มีความเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ซึ่งรวมถึงในทุก ๆ ด้านล้วนเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยถังได้เริ่มมีการติดต่อกับนานาประเทศถึงสามร้อยกว่า ประเทศ ทำให้เกิดการพัฒนาและเกิดการผสมผสานทางด้านวัฒนธรรม

           รูป แบบทรงผมและเครื่องประดับในสมัยถังนั้นมีความสวยงามและมีความหลากหลายเป็น อย่างมาก จากบันทึกกล่าวไว้ว่า “สุ่ยมีมวยผม 8 ชนิดที่สืบทอดต่อไปยังสมัยถัง   ถังมีมวยญี่ปุ่นมวยเยือนเทพ  เป็นต้น” ซึ่งรูปแบบทรงผมมีการพัฒนาหลากหลายมากจนไม่สามารถกล่าวได้หมด จนเมื่อถึงปลายสมัยถัง สังคมเกิดความไม่สงบ การเมืองการปกครองล่มสลาย ประเทศจีน ตกอยู่ในสภาพที่แตกแยกออกเป็น 5 ราชวงศ์ 10 ประเทศ ประกอบด้วย ราชวงศ์เหลียง  ราชวงศ์ถัง ราชวงศ์จิ้น ราชวงศฮั่น ราชวงศ์โจว

          เนื่องจากรูปแบบทรงผมในสมัยถังมีความหลากหลายมากผู้เขียนจึงขอแนะนำโดยสังเขป ดังนี้

มวยตกหลังม้า และมวยญี่ปุ่นตกหลัง  : เป็นลักษณะมวยเอียงคล้ายกับคนกำลังตกลงมาและเป็นมวยแกละคล้ายหลังม้า  มวยจะเกล้าแบบหลวม ๆ คล้ายกับว่ากำลังจะหล่นลงมา บ้างก็นิยมนำดอกกุหลาบมาประดับบริเวณมวย  เป็นทรงผมที่นิยมกันเป็นอย่างมากในสมัยถัง และเป็นต้นแบบทรงผมที่ยุคสมัยต่อมานำไปดัดแปลงให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น  โดยมวยญี่ปุ่นตกหลังนิยมทำกันในพิธีแต่งงานหรือสตรีที่เพิ่งจะแต่งงาน

มวยผมหลังม้า
มวยญี่ปุ่นตกหลัง
ทรงผมหญิงม่ายสมัยถัง

มวยญี่ปุ่น : มวยญี่ปุ่นได้เริ่มมีมาตั้งสมัยฮั่นทางตะวันออก ซึ่งในยุคนั้นนับว่าเป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมาก โดยได้ดัดแปลงมาจากผมทรง มวยพันรอบ หากสังเกตดี ๆ ผมทรงดังกล่าวคล้ายกับผมทรงญี่ปุ่นเนื่องจากสมัยฮั่น ก็คือประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบันนั้นเอง  บ้างก็กล่าวกันว่ามวยญี่ปุ่นคล้ายเสี้ยวพระจันทร์อยู่กลางกระหม่อม จวบกระทั้งสมัยถังก็ยังคงมีสตรีนิยมทำกันอยู่

มวยแกละ : มีมาตั้งแต่สมัยฉิน มวยแกละในสมัยถังยังคงนิยมทำกันในหมู่เด็กถึงวัยรุ่นของผู้คนทั่วไป และเป็นทรงผมของเด็กรับใช้ในราชสำนัก

มวยผม “ห่านฟ้าตระหนก”  : มวย ผมทรงนี้ลักษณะคล้ายกับห่านที่กำลังกระพือปีกอยู่ โดยมีมาตั้งแต่สมัยฮั่น ในยุคสามก๊ก ซึ่งจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์สามก๊กพบว่ามวยผมทรงนี้นิยมทำกันในหมู่สตรี ชาววัง กระทั้งสมัยถัง สตรีสามัญชนทั่วไปก็ได้นำมาทำและมีระบุว่าที่เมืองฉางอันนิยมผมทรงนี้กัน เป็นอย่างมาก

มวยผมแบบกระดูกสันหลัง  : มีลักษณะมวยมัดเป็นท่อน ๆ คล้ายกระดูกสันหลัง นับว่าเป็นทรงผมที่เก่าแก่ของจีนทรงหนึ่ง ไล่มาตั้งแต่สมัยซางโจว สมัยฉินฮั่น  สมัยสุ่ยถัง  สมัยซ่ง  สมัยเหวี่ยน  สมัยหมิง สมัยชิง เป็นต้น เพียงแต่มีการจัดแต่งทรงผมที่มีลักษณะความสูง ต่ำ เอนซ้ายขวา ไปทางข้างหน้าหรือข้างหลัง ต่างกันแค่นั้น

มวยกระดูกสันหลังใหญ่ มวยผมทรงกระดูกสันหลังของหญิงที่แต่งงานแล้ว

มวยก้านเกล็ด : มวยก้านเกล็ดมีมาตั้งแต่สมัยฉิน ลักษณะของมวยจะเป็นการวนไปวนมาคล้ายกับดอกไม้สมุนไพรจีนชนิดหนึ่งชื่อว่า ก้านเกล็ด

มวยผมทรงก้นหอย  : เป็น ทรงผมที่หญิงสาวในราชสำนักรวมถึงหญิงสาวสามัญชนทั่วไปในสมัยถังนิยมทำกัน และนิยมเรื่อยมาถึงสมัยซ่ง และหมิง  รูปแบบผมทรงนี้จะเป็นลักษณะคล้ายลายก้นหอย ถูกค้นพบในภาพวาด รูปปั่นแกะสลักและสุสานสมัยถัง ตามบันทึกกล่าวไว้ว่า สตรีในสมัยถังชอบที่จะไว้ผมยาวแล้วเกล้าผมสูง ที่เรียกกันว่าผม “ทรงก้นหอย”  ซึ่งที่เมืองฉางอันได้รับความนิยมอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง การเกล้าผมทรงนี้จะเป็นลักษณะรูปแบบค่อย ๆ ขดวนผมให้เป็นชั้น ๆ ขึ้นไป หรือใช้ลวดเหล็กในการช่วยมวยผมให้เป็นรูปทรง หลังจากนั้นใช้มือในการถัก พัน ขดให้เป็นลักษณะคล้ายลายก้นหอย แล้วจัดวางให้อยู่ในตำแหน่งบนยอดศรีษะ หรือแบ่งออกเป็น 2 ข้าง ไม่ก็ให้ยื่นออกมาเลยหน้าผาก ซึ่งสามารถออกแบบลักษณะได้ตามใจชอบ

รูปแบบการเกล้ามวยสูง :เป็น ทรงผมที่นิยมกันเป็นอย่างมากในสมัยถัง และมีการพัฒนารูปแบบให้มีความหลากหลาย มีตั้งแต่เรียบง่ายไปจนถึงมีเครื่องประดับตกแต่ง บริเวณหน้าผากนิยมเสริมความงามโดยติดปีกแมลงเม่า ไข่มุก กลีบดอกไม้  เป็นต้น และนิยมเขียนคิ้วเชิดขึ้น หรือเขียนให้เป็นลักษณะเลขแปดจีน

มวยสูงสวมหมวกลายหงส์และเครื่องประดับปิ่นตุ้งติ้งทำจากหยกและไข่มุขของเจ้าจอมหรือนางสนมเอกสมัยถัง  
มวยสูงของสตรีที่แต่งงานแล้วประดับด้วยมงกุฎดอกไม้
มวยสูงประดับด้วยมงกุฎดอกไม้และปีกแมลงเม่าของนางสนม
มวยผมห่อและพันด้วยผ้าดิ้นสีสันต่าง ๆ ของนางสนมในวัง              

ทรงไหมย้อย  : เป็นลักษณะแกละเตี้ย มัดผูกไล่มาเป็นข้อ ๆ หรือข้อเดียวแล้วแต่ความชอบของหญิงในสมัยนั้น นิยมทำกันในหมู่เด็กวัยรุ่นอายุระหว่าง 12 – 18ปีในสมัยถัง

ทรงผมสมัยยุค 5 ราชวงศ์  (ราชวงศ์ เหลียง  ราชวงศ์ถัง ราชวงศ์จิ้น ราชวงศฮั่น และราชวงศ์โจว)  เมื่อสมัยถังล่มสลายเกิดการแตกแยกกลายเป็นอาณาจักรย่อย ๆ 5 อาณาจักร 5 ราชวงศ์ ทรงผมจึงได้รับการสืบทอดและพัฒนาต่อเนื่องมาจากสมัยสุ่ยและสมัยถัง  โดยทรงผมข้างล่างนี้ เป็นทรงผมที่มีการดัดแปลงขึ้นมาในยุค 5 ราชวงศ์

มวยสูงของสตรีที่แต่งงานแล้ว
มวยสูงของสตรีทั่วไป
มวยสูงปักด้วยปิ่นดอกไม้
มวยสูงที่ประดับด้วยปิ่นและมงกุฏดอกไม้
มวยสูงที่ประดับด้วยหวีสับ ปิ่นดอกไม้บริเวณหน้าผากวาดเป็นลายดอกไม้
มวยสูงประดับด้วยหวีสับและปิ่นทรงนี้นิยมทำกันในสมัยถังและสมัย 5 ราชวงศ์
มวยเตี้ยประดับด้วยดอกไม้ของสตรีทั่วไป

         จาก ที่กล่าวมาทั้งหมด สมัยราชวงศ์สุ่ยเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก สมัย 5 ราชวงศ์ ก็เป็นยุคที่ไม่มีอะไรเป็นหลัก  ดังนั้นหากกล่าวถึงทางด้านวัฒนธรรมเครื่องแต่งกายหรือทรงผมจึงนำทั้ง 2 ยุคนี้มากล่าวรวมกันในยุคสมัยถัง


ที่มา:
http://senior.eduzones.com/poonpreecha/78986

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น